ความรู้ทั่วไป สารนิเทศ การศึกษา คอมพิวเตอร์ >>

เกร็ดความรู้ จากสารานุกรมไทย

มหาตมคานธี

เกิดเมื่อปี พ.ศ.2412 ในรัฐราชโกฏ ประเทศอินเดียด้านตะวันตก เมื่ออายุ 13 ปีได้แต่งงาน อายุ 18 เดินทางไปศึกษาวิชากฎหมาย ณ ประเทศอังกฤษ

ระหว่างอยู่ประเทศอังกฤษคานธีได้มีโอกาสอ่านหนังสือภควัทคีตา คัมภีร์ของชาวฮินดู ได้ศึกษาคัมภีร์ไบเบิล หนังประทีปแห่งทวีปอาเชียเกี่ยวกับพระพุทธประวัติ และหนังสืออีกเล่มหนึ่งในบทที่ว่า ด้วยศาสดาพยากรณ์แห่งศาสนาอิสลาม คานธีพยายามศึกษาคำสอนในศาสนาฮินดู คริสต์ พุทธ และอิสลาม เพื่อจะได้เกิดความเข้าใจ  ในคำสอนของศาสนา เหล่านี้อย่างถ่องแท้

เมื่อกลับประเทศอินเดียในปี พ.ศ.2435 หลังจากสอบได้เป็นเนติบัณฑิตอังกฤษแล้ว ต่อมาได้มีโอกาสไปประเทศแอฟริกาใต้ได้มีเหตุการณ์เกิดขึ้น ซึ่งได้เปลี่ยนชีวิตของคานธีโดยสิ้นเชิง อนุสนธิแห่งเหตุการณ์นี้เกิดจากอำนาจแห่งความรู้สึกเหยียดผิว และนับจากนั้นมา คานธีก็ได้อุทิศตนเข้าต่อสู้ เพื่อสิทธิในฐานะเป็นมนุษย์ของชาวอินเดียในแอฟริการใต้

ในปี พ.ศ.2458 คานธีเดินทางกลับประเทศอินเดีย  เมื่อถึงเมืองบอมเบย์คานธีได้เปลี่ยนไป เป็นอีกคนหนึ่งโดยสิ้นเชิง คานธีได้หันมาใช้เสื้อผ้าแบบพื้นเมือง ของชาวคชราต (คุชราฐ - ลำดับที่ 1080 เพิ่มเติม) อันเป็นถิ่นกำเนิดของคานธี หลังจากนั้นได้ออกเดินทางไปยังภาคต่าง ๆ ของประเทศ เพื่อศึกษาและรู้เห็นอินเดียอย่างแท้จริง เป็นเวลาหนึ่งปีเต็ม

กฎหมายโรว์ แลตค์ พ.ศ.2462 ซึ่งไม่ยอมให้สิทธิเสรีภาพในฐานะพลเมืองแก่ชาวอินเดีย เป็นต้นเหตุผลักดันคานธี ให้เข้าร่วมขบวนการต่อสู้ เพื่ออิสรภาพของอินเดีย ตั้งแต่ปี พ.ศ.2462 จนถึงมรณกรรมในปี พ.ศ.2491

ตั้งแต่ปี พ.ศ.2467 - 2472  ดูเหมือนว่าคานธีจะได้วางมือจากปฏิบัติการทางการเมือง แบบเร่าร้อนและหันไปอุทิศเวลาให้แก่ปัญหาสำคัญ ๆ ของประเทศชาติ เช่น ปัญหาระหว่างฮินดู - มุสลิม ปัญหาการถือชั้นวรรณะ ความเสมอภาคของสตรี และการฟื้นฟูเศรษฐกิจในชนบททั่วไป

ในวัน 26 มกราคม พ.ศ.2473 คานธีได้ประกาศปฏิญญาอิสรภาพสมบูรณ์ มีประชาชนจำนวนล้าน ๆ ได้สมาทานรับข้อปฏิบัติ ในปี พ.ศ.2474 คานธีได้กล่าวในที่ประชุมแห่งหนึ่งในเมืองโลซานน์ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ว่า เราควรจะพูดว่า "ความจริงคือพระเจ้า" ดีกว่าจะพูดว่า "พระเจ้าคือความจริง"

คาธีถูกจับกุมตัวอีกครั้งในปีเดียวกันนี้ และได้อดอาหารประท้วงรัฐบาลอังกฤษ  ในการที่รัฐบาลอังกฤษพยายาม สร้างความแตกแยกให้เกิดแก่มวลชน ด้วยการให้มุสลิม และชนวรรณะต่ำต้อยมีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง โดยแยกออกไปเป็นกลุ่มชนต่างหาก การประท้วงครั้งนี้ทำให้อังกฤษต้องเลิกล้มแผนการดังกล่าว

เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อปี พ.ศ.2482 คานธีได้กลับมาสู่วงการเมืองอีกครั้ง ในปี พ.ศ.2488 นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้ให้คำมั่นสัญญาว่า จะให้อินเดียปกครองตนเองในไม่ช้า คณะผู้แทนของรัฐบาลอังกฤษ ได้เดินทางไปเจรจาการเมืองในอินเดีย แต่ไม่สามารถจะหาทางตกลงกันได้ ระหว่างพรรคคองเกรสกับสันนิบาตมุสลิม

ในปี พ.ศ.2489 รัฐบาลอังกฤษได้เชิญให้นายยวาหะ ระลาล เนห์รู จัดตั้งรัฐบาลชั่วคราว สันนิบาตมุสลิมได้ประกาศ "วันลงมือปฏิบัติการโดยตรง" ยังผลให้เกิดการนองเลือดขนานใหญ่ในเบงกอล  ซึ่งได้ระบาดไประหว่างชุมชนมุสลิม กับฮินดูในหลายจังหวัดในเบงกอลตะวันออก และในแคว้นพิหาร คานธีได้เดินทางไปตามชนบทซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นไอของคาวเลือด และความเคียดแค้น เพื่อให้ชุมชนทั้งสองกลุ่มศาสนายุติการประหัดประหารกัน และหันมาปรองดองกัน

ในปี พ.ศ.2490 อุปราชคนใหม่ของอินเดียคือ ลอร์ด เมาแบตแตน  ได้มาเจรจาหาลู่ทางให้ประชาชน ในอนุทวีปได้รับอิสรภาพ ก่อนหน้านี้ได้มีการประชุมกันระหว่างรัฐบาลอังกฤษ กับผู้นำของพรรคคองเกรส และนายจินนาห์ผู้นำสันนิบาตมุสลิม แต่นายจินนาห์ยืนยันให้มีการแบ่งแยกประเทศ คานธีไม่เห็นด้วยโดยประการทั้งปวงที่จะให้มีการแบ่งแยกประเทศ

อินเดียถูกแบ่งแยก และเป็นอิสระในวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ.2490  คานธีปฏิเสธไม่ยอมเข้าร่วม การฉลองอิสรภาพในกรุงเดลี หากได้เดินทางไปยังนครกัลกัตตา ซึ่งเป็นสถานที่ชาวฮินดูกับชาวมุสลิมรบราฆ่าฟันกันอยู่ และประกาศอดอาหารจนกว่าการต่อสู้จะยุติลงซึ่งก็ได้ผล คานธีถูกมาตกรรมในวันที่ 30 มกราคม พ.ศ.2491 ที่กรุงนิวเดลี

>>> กลับหน้าหลัก สารานุกรมไทย >>>

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย