ความรู้ทั่วไป สารนิเทศ การศึกษา คอมพิวเตอร์ >>

เกร็ดความรู้ จากสารานุกรมไทย

ปฏาจารา

เป็นพระเถรีผู้เป็นอรหันต์ ได้รับยกย่องจากพระพุทธเจ้าว่าเป็นเอตทัคถะ คือ ยอดเยี่ยมในทางทรงจำพระวินัย เหตุที่ได้ชื่อว่าปฏาจารา เพราะกลับความประพฤติได้ หรืออีกนัยหนึ่งว่า เดินไปโดยไม่มีอะไรปกปิดร่างกาย มีประวัติเล่าว่า ท่านเป็นธิดานายธนาคาร ในเมืองสาวัตถี มีรูปร่างสวยงาม ต่อมาได้แอบลอบรักใคร่กับคนรับใช้ในบ้าน แล้วหนีออกจากบ้านไปกับคนรับใช้นั้น เมื่อนางคลอดบุตรคนที่สองในระหว่างทาง ได้เกิดพายุฝนอย่างหนัก สามีถูกงูกัดตาย นางพาลูกทั้งสองเพื่อเดินทางกลับไปบ้านพ่อแม่ ที่เมืองสาวัตถี ระหว่างทางมีแม่น้ำขวางหน้าอยู่ ระหว่างพาลูกข้ามลำน้ำทีละคน ลูกคนหนึ่งถูกเหยี่ยวโฉบไป ลูกอีกคนหนึ่งจมน้ำตาย นางเสียใจมากจึงเดินทางไปหาพ่อแม่ที่เมืองสาวัตถี แต่ก็ทราบข่าวว่าพ่อแม่ของนางพร้อมทั้งพี่ชาย ถูกบ้านพังทับตายทั้งสามคน ในคืนวันฝนตกหนักที่นางเสียสามี และลูกไปนั้น

บัดนั้นเอง นางไม่สึกแม้ว่าผ้าที่นุ่งจะหลุด ร้องไห้รำพันกระเซอะ กระเซิง ไปจนถึงพระเชตุวันมหาวิหาร พบพระพุทธเจ้าประทับนั่งแสดงธรรมอยู่ ประชาชนในที่นั้นพยายามกีดกันไม่ให้นางเข้าไป แต่พระพุทธเจ้าได้ตรัสให้นางเข้าเฝ้า และตรัสกับนางผู้บำเพ็ญบารมีมาแล้ว และมีอภินิหารสมบูรณ์ว่า " น้องหญิง จง(ตั้งใจให้) กลับได้สติเถิด " ด้วยพุทธานุภาพ นางจึงกลับได้สติ และรู้ตัวว่าไม่ได้นุ่งผ้า เกิดความละอายจึงทรุดตัวลงนั่งกระหย่ง

ขณะนั้น มีชายผู้หนึ่งโยนผ้าห่มไปให้นาง นางจึงเอามานุ่ง แล้วเข้าไปกราบบังคมแทบพระยุคลบาท ของพระบรมศาสดาแล้วกราบทูลเรื่องของนาง และขอพระพุทธองค์จงเป็นพึ่งของนาง พระพุทธองค์ทรงสดับคำของนางแล้ว จึงตรัสว่า อย่าให้นางคิดถึงเรื่องทั้งหมด ที่เกิดผ่านมาแล้วเลย น้ำตาของเธอผู้ร้องไห้อยู่ในสงสารนี้ ในเมื่อปิยชนคนซึ่งเป็นที่รักมีบุตร เป็นต้น ตายยังมากกว่าน้ำในมหาสมุทรทั้งสี่ เหตุไรเธอจึงยังประมาทอยู่เล่า

เมื่อนางได้ฟังพุทโธวาทแล้ว ความโศกของนางก็เบาบางลง พระพุทธเจ้าทรงทราบแล้ว ทรงเตือนต่อไปอีกมีใจความว่า ความตายนั้นใคร ๆ ก็ต้านทานไม่ได้ บัณฑิตทราบดังนี้แล้ว ควรถือศีลให้เคร่งครัด และหาทางที่จะนำตนไปสู่นิพพานโดยเร็ว นางได้ฟังแล้วก็ได้บรรลุโสดาปัตติผล เป็นพระโสดาบัน แล้วทูลขอบรรพชา พระพุทธองค์จึงส่งนางไปยังสำนักของพวกภิกษุณี เพื่อให้บรรพชาให้ เมื่อนางได้อุปสมบทแล้ว อยู่มาวันหนึ่งนางกำลังเอาหม้อน้ำตักน้ำล้างเท้า เทลงน้ำก็ไหลไปหน่อยหนึ่ง แล้วหยุดเมื่อเทน้ำไปครั้งที่สอง น้ำก็ไหลไปไกลกว่าครั้งแรก ครั้งที่สาม น้ำก็ไหลไปไกลกว่าครั้งที่สอง นางถือเอาน้ำนั้น เป็นอารมณ์ กำหนดวัยทั้งสามแล้วคิดว่า สัตว์ทั้งหลายตายไปแต่ปฐมวัยก็มี ตายเสียในมัชฌิมวัยก็มี และตายในปัจฉิมวัยก็มี

พระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ คันธกุฎี ทรงแผ่รัศมีไปปรากฎประดุจประทับยืนตรัสอยู่เฉพาะหน้านาง ตรัสว่า ข้อที่เธอคิดนั้นย่อมเป็นอย่างนั้นโดยแท้ เพราะว่าผู้เห็นความเกิด และความเสื่อมของเบญจขันธ์ จะมีชีวิตอยู่เพียงวันเดียว ย่อมประเสริฐกว่าผู้ไม่เห็นความเกิด ความเกิดและความเสื่อม แม้จะมีชีวิตอยู่เพียงวันเดียว ย่อมประเสริฐกว่าผู้ไม่เห็นความเกิด และความเสื่อมซึ่งมีชีวิตอยู่ตั้งร้อยปี

>>> กลับหน้าหลัก สารานุกรมไทย >>>

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย