ความรู้ทั่วไป สารนิเทศ การศึกษา คอมพิวเตอร์ >>

เกร็ดความรู้ จากสารานุกรมไทย

บุพพาราม

เป็นวัดครั้งพุทธกาล เป็นวัดครั้งพุทธกาลตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของวัดพระเชตะวัน ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของกรุงสาวัตถี นางวิสาขามหาอุบาสิกาเป็นผู้สร้าง มีถาวรวัตถุในวัดที่สำคัญคือ โลหะปราสาท มีตำนานดังนี้

วันหนึ่งนางวิสาขาแต่งเครื่องมหาลดาประสาทไปช่วยงานแห่งหนึ่งในกรุงสาวัตถี เสร็จงานแล้ว ขากลับผ่านวัดพระเชตวันเป็นเวลาฟังธรรมพอดี จึงแวะเข้าไปฟังธรรมก่อนเข้าพระวิหารได้ถอดเครื่องแต่งตัวให้นางทาสีอยู่ข้างนอก เมื่อเทศน์จบแล้วกลับออกจากวิหารลืมเครื่องประดับ จึงให้คนใช้กลับไปเอา แต่สั่งว่าถ้าพระเก็บไว้แล้วก็อย่าขอคืนเลย เมื่อทราบว่าพระอานนท์เก็บไว้ให้จึงไม่รับคืน พระอานนท์จึงต้องเก็บเอาไว้ในคลังพัสดุของพระสงฆ์ วันต่อมานางวิสาขาไปเฝ้าพระพุทธเจ้า กราบทูลให้ทรงทราบแล้ว ให้ไวยาวัจกรประกาศผาติกรรมเครื่องลดามหาประสาท แต่ไม่ใครกล้าซื้อ นางวิสาขาจึงต้องขอซื้อคืนตามราคาตัวสร้างเดิมเก้าโกฏิ เมื่อวัดได้เงินเก้าโกฏิ นางวิสาขาก็กราบทูลว่า จะขอให้เอาเงินนี้สร้างวัดบุพพาราม โดยมีพระมหาโมคคัลนะคุมการก่อสร้าง อาคารที่สร้างเมื่อสำเร็จแล้วเป็นตึกใหญ่สองชั้น หลังคาเป็นโคม หรือเป็นแบบกูฏาคาร มียอดโดม 60 ยอด ที่ยอดมีหม้อน้ำทำด้วยทองสีสุกทุกยอด มีห้องชั้นละ 500 ห้อง จัดแบ่งเป็นส่วน ๆ ส่วนหนึ่งเป็นที่ประทับของพระพุทธองค์ มีห้องพระโรงเป็นที่ประชุมฟังธรรม มีที่พักทั้งกลางวัน และกลางคืน มีที่จงกรม ส่วนหนึ่งเป็นที่อยู่ของ พระผู้ทรงอภิธรรม ทรงพระวินัย ทรงพระสูตร พระผู้เล่าเรียนทางคันถธุระ วิปัสสนาธุระ ส่วนหนึ่งเป็นที่พักของคณะอาคันตุกะพร้อมทั้งญาติโยมผู้ติดตามมา ส่วนหนึ่งเป็นห้องพักพระภิกษุอาพาธ รอบบริเวณมีต้นไม้ปลูกเป็นแถว มีสระน้ำสรง สระน้ำฉัน ใช้เวลาก่อสร้างรวมเก้าเดือน ค่าก่อสร้างเก้าโกฏิ ค่าใช้จ่ายในการฉลองตึกเก้าโกฏิ อาคารหลังนี้ต่อมาเรียกกันว่า โลหะปราสาท

พระพุทธเจ้าประทับที่วัดนี้เป็นครั้งคราวในระหว่าง 25 ปี ที่ประทับอยู่กรุงสาวัตถีนั้น ได้ประทับที่วัดบุพพารามรวมหกปี

>>> กลับหน้าหลัก สารานุกรมไทย >>>

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย