ความรู้ทั่วไป สารนิเทศ การศึกษา คอมพิวเตอร์ >>

เกร็ดความรู้ จากสารานุกรมไทย

การบิน

จากหลักฐานปรากฏว่ามนุษย์ใฝ่ฝันในเรื่องการบินมาประมาณ 4,000 ปี ก่อน พ.ศ. จนกระทั่งราวปี พุทธศตวรรษที่ 21 ลีโอนาโด ดาวินซี  ชาวอิตาลีได้ศึกษาถึงการบินของนก ได้ออกแบบโดยการเขียนภาพกลไก การใช้กำลังแขนขาสำหรับกระพือปีก เพื่อติดกับร่างกายของมนุษย์ไว้หลายแบบ มีผู้สนใจและทดลองทำแต่ไม่ประสบความสำเร็จ ต่อมาจึงหันไปสนใจที่จะไปในอากาศด้วยบอลลูน แต่บอลลูนต้องอาศัยกระแสลมพัดพาไปเท่านั้น ไม่สามารถบังคับให้เคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ต้องการได้ หลังจากนั้น บอลลูนได้วิวัฒนาการเป็นโพยมนาวา มีรูปร่างแบบบุหรี่ซิการ์ มีเครื่องยนต์ขับเคลื่อน และมีหางเสือสามารถบังคับให้ไปในทิศทางที่ต้องการได้แต่ไม่สะดวกและปลอดภัย

ในปีพ.ศ.2341 มีชาวอังกฤษสองคนได้สร้างเครื่องบินจำลองติดเครื่องจักรไอน้ำเล็ก ๆ สามารถบินได้ไกล 40 เมตร นับว่าเป็นอากาศยานหนักกว่าอากาศ ติดเครื่องยนต์เครื่องแรกที่บินได้จริง พี่น้องสกุลไรต์ชาวอเมริกันประสบความสำเร็จในการบินด้วยอากาศยาน ที่หนักกว่าอากาศเป็นครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ.2446 ต่อมาในปี พ.ศ.2450 รัฐบาลอเมริกันได้เปิดแผนกการบินขึ้นในกรมสื่อสารทหารบก  และส่งเสริมให้นักประดิษฐ์ ส่งเครื่องบินเข้าประกวด ซึ่งพี่น้องสกุลไรต์ได้รับรางวัลอีก ต่อมาไม่นานเขาได้จัดตั้งบริษัทไรต์แอโรเพลนซึ่งทำให้นักประดิษฐ์รายอื่น ๆ สนใจและผลิตงานของตนออกมา ทำให้บริษัทการบินแพร่หลายไปทั่วทั้งยุโรปและอเมริกา

ในระยะสงครามโลกครั้งที่หนึ่งถึงก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง (พ.ศ.2457-2471) การพัฒนาเครื่องบินดำเนินไปอย่างรวดเร็ว เครื่องบินบรรทุกน้ำหนักได้มากขึ้น และมีสมรรถนะการบินสูงขึ้นตามลำดับ เครื่องบินทหารแบบขับไล่บินได้เร็วถึง 550 กม.ต่อชั่วโมง แบบทิ้งระเบิดบรรทุกลูกระเบิดได้หลายตัน มีรัศมีการบินเป็นพันกิโลเมตร ในด้านพลเรือนประเทศในยุโรป ต่างก็จัดตั้งบริษัทสายการบินบางประเทศบินมาทางตะวันออกไกล มีอังกฤษ ฝรั่งเศส และเนเธอร์แลนด์ เครื่องบินต้องแวะลงที่ ดอนเมือง ซึ่งขณะนั้นเป็นสนามหญ้าไม่มีทางวิ่งคอนกรีตอย่างปัจจุบัน

ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง (พ.ศ.2484 - 2488)  การบินทหารคงใช้เครื่องบินแบบก่อนสงครามคือ แบบขับเคลื่อนด้วยใบพัด เครื่องยนต์ลูกสูบ และได้มีการประดิษฐ์และสร้างเครื่องยนต์ไอพ่นขึ้น ในประเทศอังกฤษ เยอรมนี และสหรัฐอเมริกา

หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ด้านการบินทหารมีการสร้างเครื่องบินรบแบบต่าง ๆ ติดเครื่องยนต์ไอพ่นกันมากมาย มีสมรรถนะสูง บินได้สูงกว่า 20 กม. ก็มีความเร็วเหนือเสียงเป็นสามเท่าความเร็วเสียงก็มี ด้านการบินพลเรือนพอสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง เครื่องบินดักลาสแบบดีซี 4 สีเครื่องยนต์ก็บินขนส่งคนโดยสาร และสินค้าทันที คือปรับปรุงจากแบบ ซี 54 ที่ใช้ทำการบินขนส่งทหารในสงคราม

การบินของประเทศไทย

มีประวัติอันงดงาม และยาวนานทั้งการบินทหารและการบินพลเรือน เริ่มจากทางการจัดส่งนายทหารไปศึกษาวิชาการบิน ณ ประเทศฝรั่งเศส เมื่อปี พ.ศ.2454 เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วได้กลับมาเป็นเจ้าหน้าที่แผนกการบิน ซึ่งกระทรวงกลาโหมจัดตั้งขึ้น เมื่อปี พ.ศ.2456 มีเครื่องบินปีกชั้นเดียวสี่เครื่อง และปีกสองชั้นอีกสี่เครื่อง ใช้พื้นที่บริเวณราชกรีทาสโมสร เวลานี้เป็นสนามบิน ต่อมาได้ย้ายมาที่ดอนเมือง เมื่อปี พ.ศ.2457 และกระทรวงกลาโหมได้ออกคำสั่ง เมื่อปี พ.ศ.2457 ยกฐานะแผนกการบินขึ้นเป็นกองการบินทหารบก ได้ขยายกำลังเป็นกรมอากาศยานทหารบกในปี พ.ศ.2461 เป็นกรมอากาศยานในปี พ.ศ.2475 เป็นกรมทหารอากาศในปี พ.ศ.2478 และเป็นกองทัพอากาศ เมื่อปี พ.ศ.2480

ประเทศไทยมีกิจการบินโดยสารพลเรือนก่อนปี พ.ศ.2470 กระทรวงพาณิชย์ หรือกระทรวงเศรษฐการในสมัยนั้น ได้จัดตั้งบริษัทเดินอากาศขึ้นในปี พ.ศ.2473 ทำการบินขนส่งคนโดยสาร และไปรษณียภัณฑ์ภายในประเทศ เมื่อเลิกสงครามโลกแล้วในปี พ.ศ.2489 กองทัพอากาศได้เริ่มกิจการขึ้นใหม่ ใช้เครื่องบินเหลือใช้สงครามแบบขนส่งปี 47 มาปรับปรุงเป็นแบบโดยสารดีซี 3 มีที่นั่งโดยสาร 28 ที่นั่ง และได้โอนกิจการให้บริษัทเดินอากาศไทย ดำเนินการโดยทำการบินเฉพาะภายในประเทศ และไปประเทศใกล้เคียง ส่วนการบินระหว่างประเทศ และข้ามทวีปนั้น มอบให้บริษัทการบินไทย จำกัด ดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ.2503

>>> กลับหน้าหลัก สารานุกรมไทย >>>

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย