เทคโนโลยี นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ วิศวกรรม เกษตรศาสตร์ >>
การปลูกงาและการดูแลรักษา
งาเป็นพืชน้ำมันที่สำคัญทางเศรษฐกิจพืชหนึ่งของประเทศ
และมีแนวโน้มที่จะทวีความสำคัญขึ้นทุกปี
เนื่องจากเป็นพืชที่มีศักยภาพในการผลิตและการตลาดสูง สามารถปลูกขึ้นง่าย ลงทุนน้อย
ทนต่อสภาพความแห้งแล้งได้ดี เกษตรกรนิยมปลูกงาก่อนและหลังการทำนา
หรือหลังจากการเก็บเกี่ยวพืชหลัก การปลูกงามีทั้งในสภาพไร่และสภาพนา
ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่ของแต่ละท้องถิ่น
เมล็ดงาและน้ำมันงามีคุณค่าทางด้านโภชนาการสูง เมล็ดงาประกอบด้วยน้ำมัน โปรตีน
คาร์โบไฮเดรต วิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ
ที่จำเป็นหลายชนิดในเมล็ดงาจะมีน้ำมันงาประมาณร้อยละ 47-60 มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง
จึงเหมาะที่จะนำมาใช้บริโภคเพราะช่วยกันรักษาระดับโคเลสเตอรอลในร่างกาย
ป้องกันไม่ให้เกิดหลอดเลือดแข็งตัวหรือเส้นเลือดอุดตัน
ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคหัวใจขาดเลือด
การผลิตงาของประเทศไทยพบว่ามีพื้นที่ปลูกงาประมาณ 381,000 ไร่ ผลผลิตรวม 35,000 ตัน
โดยผลผลิตส่วนใหญ่ร้อยละ 55 ส่งออกไปต่างประเทศมูลค่าประมาณ 400
ล้านบาทส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 45 ใช้ภายในประเทศ การผลิตงาของประเทศไทย
ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ
ซึ่งมีความต้องการเพิ่มมากขึ้นทุกปี
»
สภาพดินฟ้าอากาศที่เหมาะสม
»
ชนิดพันธุ์งาและแหล่งปลูก
»
ฤดูปลูก
»
วิธีการปลูกงา
»
การเก็บเกี่ยว
»
โรคของงา
»
แมลงศัตรูงา
»
การป้องกันกำจัดวัชพืชในแปลงงา
- เรียบเรียง : อภิชาติ ผลเกิด กองส่งเสริมพืชไร่นา
จัดทำ : วิไลภรณ์ ชนกนำชัย กองเกษตรสัมพันธ์
ผลิตและเผยแพร่ : ฝ่ายเอกสารคำแนะนำ กองเกษตรสัมพันธุ์ กรมส่งเสริมการเกษตร